วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2559


เราเองก็เคยเจอค่ะ แต่เป็นบนรถเมล์แอร์ เราขึ้นรถเมล์แอร์สาย514ตอนเย็นค่ะช่วงเลิกงาน แถวๆเซ็นทรัลเวิร์ล

วันนั้นเป็นวันที่รถติดค่ะ แล้วรถคันที่ขึ้นก็ยังไม่ถึงป้ายแต่คนขับเปิดประตูให้ขึ้นเพราะเห็นรถติดมาก ตอนเราขึ้นไปก็ไม่มีปัญหาค่ะ คนบนรถมีน้อยเพราะส่วนใหญ่ไปยืนรอกันที่ป้ายแล้วจะมองไม่เห็นสายรถเมล์เพราะมันอยู่หลังๆนู้นเลย บังเอิญวันนั้นเราเดินเลียบถนนจะไปที่ป้ายรถเมล์เห็นก่อนเลยโชคดีได้ขึ้นก่อน

พอเราขึ้นไปก็เดินไปนั่งเบาะคู่อ่ะค่ะชิลๆ จ่ายตังค์ แล้วหยิบมือถือออกมาเล่นเกมเก็บผัก สักพักนึง เสียงประตูรถเปิดอีกครั้ง แล้วมนุษย์ป้าอ้วน กับมนุษย์ป้าแก่ก็ปรากฏกาย....

มนุษย์ป้าอ้วน กับมนุษย์ป้าแก่มาด้วยกันค่ะ ขึ้นจากประตูด้านหน้ารถโดยมนุษย์ป้าอ้วนขึ้นมาก่อนแล้วตรงดิ่งมาที่เบาะคู่ด้านซ้ายมือที่ติดกับประตูด้านตรงกลางรถ(เรานั่งเบาะคู่ทางขวา แต่อยู่ด้านหลังห่างไปอีกแถวนึง) ส่วนมนุษย์ป้าแก่ขึ้นมาอย่างช้ากว่ามากๆ แล้วอยู่ๆมนุษย์ป้าอ้วนก็หัวเราะ"ฮึๆๆๆ"....ไอ้เราก็เงยหน้าจากเกมขึ้นมามองว่าเสียงใครฟะ แล้วก็เห็นมนุษย์ป้าอ้วนที่หัวเราะ"คนเดียว"......

ตอนแรกก็งงแบบว่า เฮ้ย อะไรฟะ หัวเราะคนเดียว เริ่มจ้องมองด้านหลังหัวของมนุษย์ป้าอ้วนที่ดูจะสนุกกับอะไรซักอย่าง แล้วก็เข้าใจค่ะ แกหัวเราะมนุษย์ป้าแก่ที่ขึ้นมาทีหลัง แล้วเดินมาไม่ทันแก.....ไอ้เราก็คิด....เรื่องแค่นี้นี่นะ โอเคช่างเขาเถอะ เขาอาจเป็นป้าอารมณ์ดี แล้วก็นั่งเล่นเกมต่อ

หลังจากกระเป๋ารถเมล์มาเก็บตังค์คุณป้าทั้งสอง มนุษย์ป้าแก่ก็เริ่มบทสนทนาว่าด้วยเรื่องของการ"ด่า"กระเป๋ารถเมล์ แต่ไม่ใช่กระเป๋าคนที่อยู่บนรถนะคะ เป็นอีกคนนึง แต่แกพูดด้วยเสียงดังมากๆ ประมาณว่า จำได้มั้ยEนังกระเป๋ารถเมล์คนนั้นชื่ออะไร หะเรี้ยมากเลย แล้วก็ตามด้วยคำหยาบนาๆชนิดที่ไม่คิดจะเบาเสียงลง ตอนนั้นเราก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ประมาณว่าอะไรนักหนานิ่ พูดกันแค่สองคน เบาะก็นั่งคู่กัน ทำไมต้องแหกปากคุย แถม(อันนี้เราคิดเองด้วยส่วนตัวนะ)กระเป๋ารถเมล์ก็อยู่ตรงข้างหน้านั่น ถ้าคิดจะด่ากระเป๋ารถเมล์ ก็ควรไปด่าที่บ้านนะ เพราะมันอาจจะกระทบกระเป๋าคนอื่นๆ........จากนั้นแกสองคนก็คุยกันแบบหาได้มีความเกรงใจคนอื่นไม่เลยค่ะ......

และที่แย่กว่านั้นคือ มนุษย์ป้าอ้วนเริ่มไอ และจาม.....ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปคนอื่นๆก็จะพยายามเก็บอาการไอ จาม หรือพยายามทำให้ดูรบกวนคนอื่นน้อยที่สุดใช่มั้ยคะ แต่ไม่ใช่กับมนุษย์ป้าอ้วนผู้นี้ค่ะ แกไอโคลกๆๆโดยไม่มีการเอาแม้แต่มือมาปิดปาก แถมยังไอแบบสุดเสียงจนบางครั้งไอเหมือนแทบจะอ้วกอ่ะค่ะ นึกออกกันมั้ยคะเหมือนอยู่บ้านแล้วไอแบบจะขากสเลดออกมาให้ได้(ขออภัยหากคำนี้ทำให้นึกภาพออกเกินไป) ได้ยินทั้งคันรถแน่นอนค่ะ  กระเป๋าก็หันมามอง ผู้โดยสารคนอื่นก็หันมามอง แต่แกก็ไม่สะทกสะท้านใดๆอะไรทั้งสิ้น ราวกับว่าแกมีบาเรียปกป้องตัวแกให้พ้นจากความมีมารยาท จามก็จามแบบสุดๆค่ะ แต่ตอนจามนี่เอามือปิดนะคะ แต่คิดว่าเอามือปิดเพราะมีน้ำมูก สังเกตได้ชัดเจนจากการเอามือเปล่าๆป้ายจมูกแล้วเอาไปถูขากางเกงบ่อยมาก แล้วตลอดเส้นทางทุกคนก็ต้องทนฟังเสียงไอมหาภัยนั่นไปตลอดทาง ตั้งแต่เสียงอ่ะฮึ่มอ่ะฮั่มเพราะคันคอ(แต่มันดังมากๆ แกทำเหมือนแกอยู่บ้านจริงๆนะ)ไปจนถึงเสียงไอแบบชวนอ้วกนั่น จนกระทั่งถึงป้ายที่แกลงรถไปค่ะ รถถึงจะกลับมาเงียบสงบ....

รถ 1500cc ค่าเช่าเดือนละ 16050บาท

รถ 1500cc ค่าเช่าเดือนละ 16050บาท 

* * * รวมประกันชั้น 1 แบบดีสุดไม่มีความรับผิดชอบส่วนแรกดีที่สุด
* * * รวมประกันรถหาย สบายใจสุดๆ
* * * รวมประกันภัยบุคคล
* ต้องเช่า 30 วันเท่านั้นคืนก่อนไม่ได้
* เช่าวันแรกก่อน 30 พค 2559
***ค่าดำเนินการจองรถเช่า 1069 บาท (ไม่รวมในราคาเช่ารถ ไม่สามารถขอคืนได้ ) รวมค่าเช่าเดือนละ 17119 บาท
ความแตกต่างระหว่าง deduct กับ no deduct http://goo.gl/48uKor

ข้อมูลในการเช็ครถว่าง และจองรถของผู้เช่ารถ
1. ชื่อ นามสกุล ผู้เช่า ภาษาอังกฤษ
เบอร์ติดต่อ อีเมล์
2. วันเวลารับรถ ุสถานที่
3. รูปถ่ายด้านหน้าบัตรเครดิต (เฉพาะด้านหน้า)

สามารถส่งข้อมูลมาทาง line id : @carrent หรือ email sales@vouchercar.com


!!!!! สำคัญมากโปรดอ่าน !!!!!
ถ้าเราแจ้งว่าจองเรียบร้อย จะมีการกันวงเงินบัตรเครดิตลูกค้าเลย ถ้าลูกค้าต้องการยกเลิกการจอง ต้องแจ้งกลับมาภายใน 1 ชั่วโมง ไม่งั้นทางบริษัทรถเช่าจะมีการตัดเงินจากบัตรเครดิตของลูกค้า(ค่าเช่าทั้งหมด) ห้ามหายไปเฉยๆ เพราะจะโดนตัดเงินจากบัตรเครดิตนะค่ะ เสียฟรี ยกเลิกไม่ได้ และไม่สามารถแก้ไขได้นะค่ะ


เอกสารที่ต้องใช้ในวันเช่ารถ
1.ใบขับขี่
2.บัตรประชาชน
3.บัตรเครดิตไว้ประกันวงเงินรถเช่า วงเงินคงเหลือ 5000+ ค่าเช่าต่อเดือน

หลังจากจองสำเร็จทางเราจะแจ้งให้ชำระเงินค่าดำเนินการเข้ามาอีกที
ชำระค่าดำเนินการ 1069 บาท โอนเงินหมายเลขบัญชีจะแจ้งให้ทราบหลังจองสำเร็จ


ในกทม มีสามสาขา สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินลงดอนเมือง พระรามเก้า(Rca)
การจองรถเช่าไม่สามารถยืนยันรุ่น คัน ยี่ห้อ และสีรถเช่าได้ http://goo.gl/szXG3E
ไม่เข้าใจตรงไหนสอบถามได้ครับ

วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

การสั่งเลือกที่นั่ง Air Asia X


เริ่มที่ 37 ครับ
37 ABC - DFG - HJK
38 KJH - GFD - CBA
39 ABC - DFG - HJK
กำลังคิดว่า สงสัย แอร์เอเชียเอ๊กซ์ อาจจะไม่ได้เรียงเป็นงูหน่ะครับ อาจจะเรียงหน้ากระดานแทน

37 ABC DFG HJK
38 ABC DFG HJK
39 ABC DFG HJK
40 ABC DFG HJK

เพราะจริงๆ 40 ควรต้องตีจากขวาไปซ้าย แต่ของ จขกท. ได้ 40B และ 40C ริมทางเดิน ก็นับว่าโอเคอยู่นะครับ


วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

6 โรงแรมราคาถูกในโตเกียว ราคา 3,500 เยน หรือ 1,120 บาทเท่านั้น!


     คนที่กำลังจะเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นนี่ต้องกังวลกับเรื่องค่าใช่จ่ายนู้นนั่นนี่เยอะแยะไปหมดเลยใช่มั้ยละคะ ด้วยที่ว่าญี่ปุ่นค่าครองชีพสูง อะไรๆก็แพงทั้งนั้น รวมถึงห้องพัก โรงแรมด้วยใช่มั้ยละคะ ครั้งนี้เราเลยมาเสนอทางเลือกของที่พักให้คุณอีกรูปแบบหนึ่งค่ะ เป็น business hotel ราคาถูก ด้วยราคาเพียงไม่เกินคืนละ 3,500 เยน หรือถ้าคิดเป็นเงินไทยเพียงไม่เกินคืนละ 1,120 บาทเท่านั้นค่ะ ถึงราคาจะถูก แต่ภายในห้องก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน คุณไม่ต้องกังวลเลยยละคะ เราจัดสรรมาให้เราอย่างเพียบพร้อมกันเลยทีเดียวค่าาา 


1. โรงแรม Fuchu Urban Hotel Bekkan





       โรงแรมอยู่ห่างจากสถานีรถไฟเพียงหนึ่งนาที เมื่อเดินจากสถานี ฟุจู ของรถไฟสายเคโอ ไม่เพียงแค่ความสะดวกสบายของห้องพัก ราคารวมอาหารเช้าให้แล้วเพียง คืนละ 3,400 เยนต่อคน ส่วนอาหารเช้าก็จะเป็น ขนมปัง สลัด หรือกาแฟค่ะ แต่ถ้าจะให้ระบุถึงข้อเสียของโรงแรมนี้ล่ะก็ ก็จะมีแค่ขนาดของจอทีวีภายในห้องพัก ที่เล็กไปหน่อยก็เท่านั้นเองค่ะ 

ราคา : 3,400 เยน หรือ 1,080 บาท

ที่ตั้ง : 1-11-1 Miyanishicho, Fuchu, จังหวัดโตเกียว 183-0022, ญี่ปุ่น 


2. โรงแรม Marroad International Hotel Narita 





       เป็นโรงแรมหรูราคาถูกที่อยู่ใกล้กับสนามบินนาริตะ เพียงแค่นั่งรถบัสของสนามบินซึ่งไม่เสียค่าธรรมเนียมประมาณ 10 นาที จากสถานี Airport Terminal 2 ของรถไฟสายเคโอ เป็นการเดินทางที่ง่ายและสะดวกต่อนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

ราคา : คืนละ 3,300 เยนต่อคน หรือ 1,050 บาท 

ที่ตั้ง : 763-1 Komaino, Narita-City, Chiba Pref., สนามบินนานาชาติ นาริตะ, โตเกียว, ญี่ปุ่น 286-0121 

เว็บไซต์โรงแรม : http://www.marroad.jp/narita/eindex.htm


3. โรงแรม Super Hotel JR Ikeburo Nishiguchi





       ใช้เวลาเดินเท้าเพียง 5 นาทีจากสถานีอิเคะบุคุโระฝั่งประตูทิศเหนือ 20A ก็จะถึงโรงแรมนี้ มาถึงที่นี่ เราสามารถเลือกหมอนได้ตามใจชอบตามความนุ่มและขนาดความแน่นของหมอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสุภาพสตรี จะสามารถเลือกได้ว่าจะเอา โลชั่นทาผิว ลูกประคบเย็น หรืออย่างอื่นอีกหรือไม่ เท่านั้นยังไม่พอ ราคานี้ยังรวมอาหารเช้าอีกด้วย เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ

ราคา : 3,490 เยนต่อคน หรือ 1,103 บาท

ที่ตั้ง : 2-14-12, Ikebukuro, Toshima-ku, Tokyo 101-0014, ญี่ปุ่น

เว็บไซต์โรงแรม : http://www.superhoteljapan.com/en/s-hotels/jrikebukuro.html


4. โรงแรม Toyoko Inn Yokohama-Sen Fuchinobe-Eki Minami-Guchi





       โรงแรมโตเกียวอินน์แห่งนี้มีสาขามากในญี่ปุ่นการเดินทางนั้น ใช้เวลาเพียง 5 นาทีจากทางออกประตูทิศใต้สถานีฟูจิโนะเบะ ของรถไฟสายโยโกฮะมะ มีอาหารเช้าให้ด้วยนะคะ ถือว่าเป็นโรงแรมราคาถูกแถมคุ้มด้วยค่ะ

ราคา : คืนละ 2,990 เยนต่อคน หรือ 945 บาท

ที่ตั้ง : 1-14-6, Kanumadai, Chuo-ku, ซากามิฮาระ, คานางาวะ, ญี่ปุ่น 229-0033 

ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่: http://www.toyoko-inn.com/e_hotel/00213/



5. โรงแรม Hotel Gracery Tamachi





       โรงแรมจะใช้โทนดำ ขาวค่ะ ใช้เวลาเพียง 4 นาทีจากสถานีรถไฟเจอาร์ ทะมะจิ ภายในห้องจะมีเครื่องอำนวยความสะดวกคุณภาพดีๆให้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องฟอกอากาศ เครื่องทำความชื้นค่ะ 

ราคา : คืนละ 2,800 เยนต่อคน หรือ 885 บาท

ที่ตั้ง : 3-8-1 Shibaura, Minato-ku, ชินากาว่า, โตเกียว, ญี่ปุ่น 1080023 

เว็บไซต์โรงแรม : http://tamachi.gracery.com/


6. โรงแรม Tobu Hotel Levant Tokyo 






       เพียงแค่ 3 นาทีด้วยการเดินจากทางออกประตูทิศเหนือของสถานีรถไฟเจอาร์ สายโซบุ  บางห้องจะสามารถชมทัศนีภาพอันสวยงามของ โตเกียวสกายทรีได้เลยค่ะ ภายในห้องพักก็มีการตกแต่งไว้อย่างหรูหรา อีกทั้งทำเลที่ตั้งสะดวกต่อการเดินทางไปท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ เช่น วัดอาสะคุสะ และ เดินทางเข้าเมืองได้อย่างง่ายเลยค่าาา

ราคา : คืนละ 2,800 เยนต่อคน หรือ 885 บาท

ที่ตั้ง : 1-2-2 Kinshi Sumida-ku, อากิฮาบะระ/โอชาโนะมิซุ, โตเกียว, ญี่ปุ่น

เว็บไซต์โรงแรม : http://www.tobu.co.jp/foreign/hotel/levant_tokyo.html

**หมายเหตุ ราคาทั้งหมดเป็นราคาต่อคน ช่วง low season และเป็นห้องพักแบบถูกและเล็กที่สุด**

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

เทคนิคการหลอกนักท่องเที่ยวไทย ในเมืองจีน..(หากมีญาติจะไปเที่ยว อ่านกันนิดนึง)


หากเป็นชาว Blueplanet คงไม่โดนหลอก

แต่ตอนนี้มีสายการบินราคาถูกไปเมืองจีนเยอะ  พวกญาติๆ อาเจ้ อาหมวยอยากไปเที่ยวกันสักครั้ง

หรือแม้กระทั่งฉิ่งฉับทัวร์ ไปทางรถจากเชียงของเข้า 12 ปันนา...กลุ่มนี้ โอกาสไม่รู้ข้อมูล และโดนหลอกมาก

เลยเอามาเขียนซ้ำ และแฉเทคนิคการหลอก อีกสักครั้ง...สงสารคนเสียรู้  ฝากเอาไปบอกต่อหน่อยละกัน


1. เรื่องแรก คือเปลี่ยนโปรแกรมทัวร์เมื่อไปถึง ดังนั้นคนไทยหัวหน้ากลุ่มต้องตกลงและดูโปรแกรมให้ละเอียด  และมักจะโดน
เปลี่ยนไปเข้าร้านหยก ร้านยา ร้านขายของแทนโปรแกรมหลัก โดยอ้างว่าถนนก่อสร้าง ทางไม่ดี

** ขอแท็คห้องหว้ากอ เรื่องหลอก สารเคมี + ไฟฟ้า




2. เทคนิคการหลอก เรื่องยา

ในร้านขายสมุนไพร โดยไกด์จะนำเข้าไปที่ขายยาสมุนไพรจีน ( โดนทุกทัวร์ครับ ไกด์จะอ้างว่ารัฐบาลบังคับ )
โดยบอกว่าสถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์วิจัยสมุนไพรจีน โดยหมอธิเบต หรือหมอไทยลื้อ
โดยบอกว่าเป็นศูนย์ ของรัฐบาลจีน ( แต่จริงๆ ไม่ใช่ )

ทุกคนในคณะถูกหมอ แต่งเสื้อคลุมมาตรวจแมะชีพจร แล้วมีล่ามแปลเป็นภาษาไทยให้ฟัง 
ทุกคนมีโรคที่น่ากลัวหมดโดย เฉพาะโรคตับ ไตไม่ดี
ซึ่งผลสุดท้ายหลายคนโดนกล่อม และกลัวก็ต้องซื้อยาสมุนไพรจีนกันคนละหลายพันบาทไทย 

หมอจะเอาสำลีชุบของเหลวมาทาหน้าท้องก่อนรอบแรก จะเป็นสีเหลืองๆ
รอบสอง เอาของเหลวในขวดทึบมาทาซ้ำ

คราวนี้ ตรงบริเวณไตด้านขวา ก็จะกลายเป็นสีแดง ช้ำเลือด  ( ดูรูป )
บริเวณอื่นไม่เปลี่ยน

แล้วบอกว่าไตไม่ดี...คราวนี้จิตตก ก็ต้องโดนกล่อมซื้อยาแก้

....ตรงนี้ วิธีคือใช้สารเคมี 2 ชนิด พอทาซ้ำให้ผสมกัน ก็จะเปลี่ยนสี
โดยจะแอบทาตรงไตเป็นอีกชนิดนึงก่อน


อีกเทคนิค คือใช้พลังตรวจรักษา  โดยทำท่าแบบกังฟู ตระโกนออกเสียงดังๆ

แล้วเอามือมาลากผ่าน ท่อนแขนนักท่องเที่ยว และหน้าผาก

จะรู้สึกว่ามีไฟฟ้าช๊อต...พอรู้สึก ก็แสดงว่าหมอมีพลังวิเศษ...เดี๋ยวโดนเสียเงินซื้อยาอีก

เฉลย  หมอในเสื้อคลุม จะมีกล่องที่สร้างไฟฟ้าแรงดันสูงแอบเหน็บไว้
ลากสายมาใกล้มือหมอ  คนไข้จะขอให้ถอดรองเท้า ถุงเท้าก่อน
ทีนี้พอลากมือผ่าน ไฟ้ฟ้าจะกระโดดเข้าช๊อต ให้รู้สึกได้  เทคนิคง่ายๆครับ
หลักการคล้ายๆ หัวเทียนรถยนต์



3. ร้านหยก

ร้านนี้ ไม่จำเป็นอย่าเข้าครับ  ปฏิเสธไว้ไม่เข้าก่อนเลย  เพราะจิตวิทยาสูงมากๆ

เป็นลักษณะ เอาพนักงานขาย พูดไทยไม่คล่องมาเสนอราคาสูงๆก่อน
อีกสักพัก ผู้จัดการเข้ามา แล้วลดราคาสะบั้นหั่นแหลก จนพนักงานขายตกใจ
ว่าลดได้ไง 70 - 80 เปอร์เซนต์ แล้วก็ร่วมกันเนียนเป็นแก๊งค์  ยากที่จะปฏิเสธ
เพราะคนไทยชอบราคาถูก และขี้เกรงใจ


4. การซื้อของ

ต้องต่อราคาเยอะๆ และดูของเป็น ว่าไม่ปลอม  รวมถึงแลกเงินปลอม


....ก็เอามาบอกเล่ากันฟัง ไว้เตือนญาติๆ เพื่อนๆ  ที่ไม่เคยรู้ข้อมูล และกำลังจะไปเที่ยวเมืองจีน

มีคติว่า  " ไปเมืองจีน ไม่โดนหลอก ก็เหมือนไปไม่ถึงเมืองจีน "


cr http://pantip.com/topic/32324938